เรียกได้ว่าเราต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 (Covid-19) กันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ 2019 ไม่ว่าเราจะพยายามเก่งให้มากกว่าเชื้อโควิดแค่ไหน ทั้งคิดค้นยารักษา และวัคซีนป้องกันโควิด แต่เราก็ยังไม่สามารถยับยั้งการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดได้ ซึ่งแต่ละครั้งที่เกิดการกลายพันธุ์ รูปแบบอาการก็จะเปลี่ยนไป ยารักษาและวัคซีนจึงต้องมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วย ขณะเดียวกันในส่วนของผู้บริโภคอย่างเราทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรงและเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ไวรัสโควิดสามารถโจมตีเราได้ง่ายๆ
นอกจากระบบทางเดินหายใจที่เราต้องระมัดระวังไม่ให้โควิดเข้ามาทำอันตรายแล้ว เราก็ไม่ควรละเลยที่จะดูแลระบบอื่นๆ ในร่างกาย ซึ่งมีโอกาสโดนโจมตีจากโควิดได้เช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือลำไส้ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
สารบัญ
Toggleไวรัสโควิดส่งผลต่อลำไส้ได้อย่างไร
ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของเชื้อโควิดจนถึงทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ทำการศึกษาวิจัยหลายต่อหลายครั้ง เพื่อที่จะค้นหาว่าอะไรเป็นสาเหตุของโควิด-19 ได้บ้าง และจะมีวิธีไหนที่ทำให้เราสามารถป้องกันตัวเองจากความเจ็บป่วยและฟื้นตัวจากอาการที่เกิดจากไวรัสโควิดได้เร็วขึ้น การศึกษาได้ครอบคลุมในหลายๆเรื่อง ซึ่งก็รวมไปถึงการวิจัยที่พยายามหาความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างระบบทางเดินอาหาร โพรไบโอติก และโควิดด้วย
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้พูดถึงประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการศึกษากลุ่มผู้ป่วยโควิดที่รักษาตัวในโรงพยาบาล เปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ติดเชื้อโควิด โดยการนำอุจจาระของคนทั้งสองกลุ่มมาตรวจ พบว่าผู้ป่วยโควิดมีแบคทีเรียในลำไส้แตกต่างจากคนที่ไม่ได้ติดเชื้อโควิด กล่าวคือกลุ่มผู้ป่วยจะมีแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้หรือโพรไบโอติกน้อยกว่าแบคทีเรียก่อโรคที่ทำให้เกิดความเจ็บป่วย ยิ่งมีอาการรุนแรงมากเท่าไหร่ สมดุลแบคทีเรียดีก็ยิ่งถูกทำลายมากขึ้น จนทำให้เกิดความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่น เบื่ออาหาร ท้องร่วง หรือ คลื่นไส้ ขณะเดียวกันผู้ที่มีปัญหาในระบบทางเดินอาหารบ่อยๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็มักจะเกิดความจ็บป่วยหลังติดเชื้อโควิดที่รุนแรงกว่าผู้ที่มีสุขภาพทางเดินอาหารและลำไส้ที่ดีด้วย
โพรไบโอติกช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโควิดได้อย่างไร
โพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียดีที่กระจายอยู่ทั่วร่างกาย และทำหน้าที่ส่งเสริมให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าหนึ่งในบทบาทสำคัญของโพรไบโอติกนอกเหนือจากหน้าที่หลักในการดูแลระบบทางเดินอาหาร ก็คือความสามารถในการป้องกันร่างกายจากการโจมตีโดยสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค รวมถึงไวรัสอย่างโควิดได้ โดยโพรไบโอติกจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ให้สร้างภูมิออกมาต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาในร่างกาย หากเรารักษาระดับภูมิคุ้มกันให้สูงอยู่เสมอ ก็ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อโควิด ทั้งในระบบทางเดินหายใจ และระบบอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ นอกจากนี้โพรไบโอติกยังช่วยลดอาการอักเสบภายในร่างกาย จึงช่วยลดความรุนแรงของอาการเจ็บป่วย และช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังการติดเชื้อไวรัสให้กลับมาแข็งแรงเร็วขึ้นได้ด้วย
ทานโพรไบโอติกอย่างไรให้ได้ผลในเรื่องการเสริมภูมิคุ้มกันโควิด
นอกจากการทานอาหารที่มีโพรไบโอติกสูง เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ มิโซะ ชาหมักคอมบูชา ก็ยังมีทางเลือกอื่นที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทานโพรไบโอติกมากขึ้น อย่างการทานโพรไบโอติกในรูปแบบอาหารเสริม ที่สามารถพกพาไปทานได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งการเลือกอาหารเสริมโพรไบโอติกให้ได้ประโยชน์ทั้งในแง่การเสริมภูมิคุ้มกันและต่อร่างกายโดยรวมก็มีหลักการดังนี้
- เลือกอาหารเสริมที่มีโพรไบโอติกมากเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพราะยิ่งมีจำนวนมากก็ยิ่งมีโอกาสที่โพรไบโอติกจะคงอยู่ในลำไส้ของเราได้นานขึ้นและทำงานได้เต็มที่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรทานโพรไบโอติกให้ได้อย่างน้อย 1 พันล้าน CFU ต่อวัน
- เลือกอาหารเสริมโพรไบโอติกที่บรรจุในแคปซูลที่ทนกับความเป็นกรดได้ดี เพราะทางเดินอาหารจะมีสภาพความเป็นกรดจากน้ำย่อย ดังนั้นถ้าไม่มีอะไรที่สามารถปกป้องโพรไบโอติกจากความเป็นกรดได้ โพรไบโอติกก็อาจจะถูกย่อยสลายไปเกือบหมดก่อนเดินทางไปถึงลำไส้
- เลือกสายพันธุ์ที่มีผลงานวิจัยรับรอง ทั้งในแง่ความปลอดภัยและประสิทธิภาพทั้งในด้านการดูแลลำไส้ ระบบทางเดินอาหาร และด้านการเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ช่วยลดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ซึ่งตอบโจทย์กับคนที่มุ่งเน้นเรื่องการเสริมภูมิป้องกันไวรัสโควิดได้ดี
เพียงแค่เราใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ควบคู่กับทานโพรไบโอติกอย่างสม่ำเสมอ ก็ช่วยรักษาระดับภูมิคุ้มกัน และป้องกันความเจ็บป่วยจากไวรัสโควิดได้แล้ว ต่อให้กลายพันธุ์ไปอีกกี่รุ่น เราก็สู้ไหวแน่นอนครับ