โพรไบโอติกควรเก็บในตู้เย็นจริงหรือ เราจะมีวิธีเลือกโพรไบโอติกสายพันธุ์ที่ทนทานได้อย่างไร

โพรไบโอติก-probiotic-ควรเก็บในตู้เย็น-หรือไม่

พอขึ้นชื่อว่าเป็นจุลินทรีย์มีชีวิต จึงทำให้หลายคนสงสัยว่าโพรไบโอติกในรูปแบบอาหารเสริมจำเป็นต้องเก็บในตู้เย็นเหมือนกับที่เราแช่นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกหรือเปล่า เพื่อให้โพรไบโอติกเหลือรอดและมีคุณภาพสูง สามารถดูแลลำไส้และสุขภาพของเราได้เต็มที่ โพรไบโอติกมีด้วยกันหลายสายพันธุ์ ซึ่งต่างก็มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นวิธีการเก็บรักษาจึงต่างกันด้วย

สายพันธุ์โพรไบโอติก เกี่ยวข้องกับการเก็บในตู้เย็นยังไง

โพรไบโอติกแต่ละสายพันธุ์จะทำหน้าที่ หรือมีความเก่งที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงการตอบสนองกับอุณหภูมิและความชื้นก็ต่างกันด้วย บางสายพันธุ์มีความทนทานต่ออุณหภูมิ จึงไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็นก็ได้ แต่แบคทีเรียส่วนมากจะไวต่ออุณหภูมิ ความชื้น จึงต้องเก็บในที่ที่มีอากาศเย็น และแห้ง

ดังนั้นการที่ทางผู้ผลิตมีผลการวิจัยรับรองจึงเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างมาก ทำให้เรารู้ว่าสายพันธุ์นั้นๆ มีจุดเด่นหรือข้อควรระวังอะไรในการเก็บรักษา ก่อนเลือกซื้อเราจึงควรหาข้อมูลในจุดในนี้ให้ดีเสียก่อน เพราะก็ยังมีบางแบรนด์ที่อาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำวิจัย เลือกใช้สายพันธุ์ที่ไวต่ออุณหภูมิและสภาพแวดล้อม ทำให้โพรไบโอติกเสื่อมสภาพหรือหมดอายุก่อนถึงเวลาได้ง่ายมาก และไม่ได้มีคำแนะนำเรื่องการเก็บรักษาที่เหมาะสม 

ซึ่งผู้ผลิตที่ใช้สายพันธุ์ที่ไวต่ออุณหภูมินี้ อาจไม่ยอมบอกคุณถึงวิธีการเก็บที่เหมาะสม แต่เลือกแก้ปัญหานี้ ด้วยการใส่โพรไบโอติกเข้าไปจำนวนมากในตอนแรก เพื่อให้ยังมีโพรไบโอติกหลงเหลือพอที่จะทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ และถูกต้องตามกำหนดของ อย. และอาจถือโอกาสใช้ตัวเลขสูงๆ แบบนี้มาเป็นจุดขายด้วยซ้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจจะเหลือเชื้อที่มีชีวิตไม่เยอะเท่าที่ควร

เพื่อให้คุณได้รับประทานโพรไบโอติกที่ยังไม่เสื่อมสภาพ หรือมีจำนวนน้อยเกินไป ต้องระวังในเรื่องของการเลือกสายพันธุ์ รูปแบบในการรับประทานเป็นผง เม็ด หรือ แคปซูล ทั้งควรดูว่ามีจุดเด่นในการช่วยเรื่องอะไร ต้องบริโภคอย่างน้อยกี่ CFU วิธีเก็บรักษาที่เหมาะสม

จะรู้ได้อย่างไร ว่าโพรไบโอติกสายพันธุ์ไหนควรเก็บในตู้เย็นหรือไม่

โดยปกติแล้ว ผู้ผลิตอาหารเสริมโพรไบโอติกจะบอกวิธีการเก็บรักษาที่เหมาะสมที่ฉลากหรือบรรจุภัณฑ์ของอาหารเสริม เพื่อให้โพรไบโอติกไม่เสื่อมอายุก่อนเวลา แต่ด้วยสภาพแวดล้อมข้างนอกที่ควบคุมได้ยาก แม้จะทำตามคำแนะนำแต่โพรไบโอติกบางสายพันธุ์ก็อาจไม่เสถียรพอที่จะรอดชีวิตทั้งหมด ดังนั้นปริมาณโพรไบโอติกโดยรวมจึงอาจลดลงจากที่เครมไว้บนฉลากได้

จากงานวิจัยพบว่าสายพันธุ์ที่ทนต่ออุณหภูมิ ความชื้นได้สูงที่สุด ได้แก่ Bacilus Coagulan เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ต้องแช่ตู้เย็น ยกตัวอย่างสายพันธุ์ในตระกูลนี้ เช่น  Bacilus Coagulan SNZ1969 ที่มีอยู่ในอาหารเสริม Tactiva Probiotic เป็นสายพันธุ์ที่ทนต่อสภาพแวดล้อม สามารถวางที่อุณหภูมิห้องได้ยาวนาน 2-3 ปี โดยแทบไม่มีการลดลงเลย

เพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุด คุณสามารถสอบถามจากทางผู้ขาย หรือขอดู Stability Test (จำนวนเชื้อที่เปลี่ยนแปลงตามเวลาที่อุณหภูมิที่กำหนด) ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

การเก็บรักษาอาหารเสริมโพรไบโอติกให้คงคุณภาพดีได้นานที่สุดต้องทำอย่างไร

  • ถ้ารับประทานเป็นประจำควรเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ตามคำแนะนำที่ระบุบนฉลาก  แต่ถ้าไม่ได้ทานประจำแนะนำให้เก็บในตู้เย็นจะดีที่สุด เพื่อรักษาคุณภาพโพรไบโอติกที่ให้ดีอยู่เสมอ
  • หากโพรไบโอติกถูกบรรจุแบบแยกแต่ละเม็ดในแผงพลาสติก ไม่ควรแกะทั้งหมดแล้วเปลี่ยนไปใส่รวมกันในขวดหรือกล่องยาอีกอัน แม้จะสะดวกกับผู้บริโภค แต่ก็ทำให้โพรไบโอติกเสื่อมคุณภาพได้ง่ายขึ้น เพราะผู้ผลิตตั้งใจจะบรรจุในแผงลักษณะนี้เพื่อไม่ให้โพรไบโอติกสัมผัสกับอากาศ ความชื้นและความร้อน ดังนั้นเราจึงควรแกะโพรไบโอติกออกจากแผงเมื่อจะรับประทานจริงๆเท่านั้น
  • โพรไบโอติกที่บรรจุในขวด ไม่ขวดเปิดฝาขวดทิ้งไว้ให้โดนอากาศและความชื้น
  • การเลือกโพรไบโอติกในรูปแบบ Capsule โดยทั่วไปจะมีอายุยืนกว่าแบบอื่น เนื่องจากไม่โดนความชื้นจากส่วนผสมอื่นๆ เหมือนกับโพรไบโอติกรูปแบบผงที่บรรจุในซอง ซึ่งจะมีการใส่ส่วนผสมหลายอย่างที่มีความชื้นเพิ่มเติมเข้าไป เช่น กลิ่นผสมอาหารแบบผง สารให้รสเปรี้ยว สารอาหารอื่นๆ 
  • เช็ควันหมดอายุและควรทานให้หมดภายในเวลาที่ทางผู้ผลิตแนะนำ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดควรใช้ภายใน 1-2 ปี

สรุปคือนอกจากการดูเรื่องสายพันธุ์โพรไบโอติก และเลือกชนิดที่มีจุดเด่นตรงตามความต้องการของเราแล้ว ก็ควรดูวิธีเก็บรักษาด้วย โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ จำเป็นต้องพกโพรไบโอติกติดตัวไปทานข้างนอก ก็ควรจะเลือกสายพันธุ์ที่มีความเสถียร ไม่จำเป็นต้องเก็บในที่เย็นตลอดเวลา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสื่อมคุณภาพเร็วก่อนถึงวันหมดอายุ

บทความแนะนำ
S__9920579
ขับถ่ายปกติอยู่แล้ว จำเป็นต้องกินโพรไบโอติกด้วยหรือ?
ภาวะลำไส้รั่ว-เกิดจาก-ป้องกัน-อาการ
พาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแบบไม่รู้ตัว เพราะอาการลำไส้รั่ว ใครท้องเสียเรื้อรัง หรือท้องเสียสลับท้องผูกบ่อยๆ รีบเช็คตัวเองเลย
โยเกิร์ต-ที่คุณทาน-อาจไม่มี-โพรไบโอติก-yogurt-probiotic
โยเกิร์ตที่คุณทาน อาจไม่มีโพรไบโอติกที่คุณต้องการอยู่ในนั้น
แก้ท้องผูกในวัยทอง-ผู้สูงอายุ-ขับถ่าย*โพรไบโอติก-probiotic
เคล็ดลับแก้ปัญหาท้องผูกในผู้สูงอายุวัยทอง พร้อมทางลัดดูแลสุขภาพระยะยาวด้วยโพรไบโอติก
ความเข้าใจผิด-โพรไบโอติก
6 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโพรไบโอติก (Probiotic) ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้
อาการ กรดไหลย้อน สาเหตุ วิธีรักษา
อาการกรดไหลย้อน สาเหตุเกิดจากอะไร รักษาด้วยโพรไบโอติกได้อย่างไร
กินโพรไบโอติก อย่างไร ให้ได้ผล
กินโพรไบโอติกให้ได้ผลต้องทำอย่างไร ควรกินโพรไบโอติกตอนไหนดีที่สุด
เซโรโทนิน-serotonin-สารแห่งความสุข
เพิ่มสารแห่งความสุขและความสงบ เซโรโทนินด้วยการปรับปรุงสุขภาพลำไส้
โพรไบโอติกคืออะไร
โพรไบโอติก (Probiotic) คืออะไร เลือกอย่างไร กินอย่างไร รู้ก่อนสุขภาพดีก่อน (Update: November 2023)
ถ่ายเองไม่ได้-เพราะใช้ยาถ่ายนาน-ผู้สูงอายุ-ท้องผูก
ผลเสียจากการใช้ยาระบายบ่อย ระวังดื้อยาจนถ่ายเองไม่ได้
-1024x1024
อาการไม่ดีทุกครั้งหลังทานของโปรดหรือเราอยู่ในโหมดภูมิแพ้อาหารแฝง
ลำไส้ดี สุขภาพจิตดี เซโรโทนิน โพรไบโอติก ลำไส้
เชื่อหรือไม่ ถ้าลำไส้ดี สุขภาพจิตก็ดีตาม ภาวะซึมเศร้ากับสมดุลในลำไส้ เกี่ยวข้องกันอย่างไร
บทความอื่นๆ
แจกเมนูอาหารตามช่วงเวลา-ลำไส้ดี-เพิ่มโพรไบโอติก
แจกเมนูอาหารสุขภาพดี กินอย่างไรให้ดีต่อร่างกาย ลำไส้ไม่พัง
เครียดแล้วกินเยอะ เกิดจากอะไร
ยิ่งเครียดยิ่งกินเกิดจากอะไร ส่งผลถึงโพรไบโอติกในลำไส้ได้อย่างไรบ้าง
การกินอาหารดีอาจไม่ได้ทำให้ร่างกายดีขึ้น-ถ้าลำไส้สุขภาพแย่-ขาดโพรไบโอติก
การกินอาหารดี มีประโยชน์ อาจไม่ได้ให้ผลดีกับร่างกายเสมอไป เป็นเพราะอะไรได้บ้าง
ท้องอืด ไม่อยากอาหาร โพรไบโอติก Probiotic
ไม่รู้สึกอยากอาหาร ท้องอืดบ่อย ต้องอ่าน

สินค้าของเรา

ส่วนลดพิเศษ 30% สำหรับสมาชิก

ลูกค้าเก่าเพียงล็อกอิน เพื่อเข้ามาสั่งซื้อสินค้า และลูกค้าใหม่สมัครสมาชิกเพื่อเข้ามาสั่งซื้อ รับรหัสส่วนลดไปเลยทันที 30% หรือทักแอดมินไปทางไลน์เพื่อขอส่วนลด 30% ได้ทันที
*สงวนสิทธิ์ 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์เท่านั้น