พูดถึงการออกกำลังกายก็มักจะนึกถึงข้อดีเต็มไปหมด ทั้งช่วยส่งเสริมให้สุขภาพแข็งแรง ช่วยผ่อนคลายความเครียดทั้งทางกายและจิตใจ ในหลายๆบทความเราพูดถึงข้อดีกันมามากแล้ว วันนี้เราขอเล่าถึงข้อเสียของการออกกำลังกายกันบ้าง ซึ่งในที่นี้เกิดจากการออกกำลังกายอย่างหักโหม ว่าสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้อย่างไร รวมถึงทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพอย่างโพรไบโอติก (Probiotic) สามารถช่วยซ่อมแซมร่างกายได้อย่างไรบ้าง
สารบัญ
Toggleผลเสียของการออกกำลังกายหนักเกินไปมีอะไรบ้าง
- รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวตลอดเวลา อาจปวดทั้งตัวหรือปวดบางจุดสำหรับคนที่ออกกำลังกายซ้ำในจุดเดิมมากเกินไป ความเจ็บปวดเกิดจากการที่ร่างกายบาดเจ็บเพราะถูกใช้งานหนัก จนกล้ามเนื้ออักเสบ หรือบางคนแย่กว่านั้นคือเกิดการอักเสบที่เอ็นหรือข้อต่อด้วย
- รู้สึกเพลีย อ่อนล้าตลอดเวลาหลังใช้ร่างกายหนัก หรือบางคนได้รับผลกระทบไปถึงวงจรการนอน มีอาการนอนไม่หลับ เพราะร่างกายมีความตื่นตัวจากการออกกำลังกาย
- ความอยากอาหารลดลง ในคนที่ออกกำลังกายหนักจะมีการสร้างฮอร์โมนและอะดรีนาลีนที่หยุดความหิวออกมาทำให้ทานได้น้อยลง ตรงนี้อาจส่งผลดีกับคนที่ต้องการคุมน้ำหนัก แต่ในขณะเดียวกันการที่เราทานน้อยอาจทำให้เราได้สารอาหารไม่เพียงพอที่จะนำไปซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอ โดยเฉพาะในคนที่ออกกำลังกายหนักที่ร่างกายทรุดโทรมมากกว่าคนทั่วไป
- กล้ามเนื้อหัวใจล้า ไม่เพียงแค่อวัยวะที่เราใช้ออกกำลังกายโดยตรงจะทำงานหนัก ในส่วนของหัวใจก็ทำงานหนักขึ้นเช่นกัน จนเกิดภาวะอ่อนแรงและอาจเกิดการบาดเจ็บ นำไปสู่ภาวะหัวใจล้มหลวได้
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เพราะการออกกำลังกายหนักเป็นการกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิดความอักเสบในร่างกายมากขึ้น นอกจากทำให้ร่างกายเกิดความเหนื่อยล้าแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันเราก็อ่อนแอลง จึงเกิดการติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งก็เคยมีงานวิจัยออกมาสนับสนุนในเรื่องนี้ว่า นักกีฬาอาชีพที่ใช้ร่างกายหนักเป็นประจำ มักเจ็บป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ มากกว่ากลุ่มคนทั่วไปที่ออกกำลังกายอย่างพอดี
ออกกำลังกายแค่ไหนกำลังพอดี
ก่อนอื่นอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเองก่อน เพราะพื้นฐานร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทั้งอายุ น้ำหนัก รูปร่าง การมีโรคประจำตัว แต่ไม่ว่าจะสภาพร่างกายแบบไหนก็ไม่ควรทำอะไรที่ฝืนธรรมชาติ เกินกว่าร่างกายจะรับไหว ซึ่งหลักการจัดตารางออกกำลังกายอย่างเหมาะสม สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกประเภทกีฬาที่เหมาะกับสภาพร่างกายเรา โดยเฉพาะในคนที่มีโรคประจำตัวที่ควรเลือกชนิดของกีฬาหรือการออกกำลังกายที่ต้องไม่กระทบกับความเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ ส่วนคนที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงก็จะได้เปรียบที่เลือกออกกำลังกายได้หลากหลายกว่า แต่ทั้งนี้การออกกำลังกายก็ควรค่อยๆเริ่มจากเบา แล้วค่อยๆเพิ่มความเข้มข้น เพื่อให้ร่างกายปรับตัวและเกิดความเคยชิน
- ระยะเวลาการออกกำลังกายควรอยู่ที่ 150-300 นาทีต่อสัปดาห์ โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับประเภทกีฬาที่เราเล่น และจุดประสงค์ในการออกกำลังกายด้วย หากเป็นการคาดิโอควรอยู่ที่ 150 นาที ต่อสัปดาห์ โดยอาจแบ่งเป็น 5 วัน วันละ 30 นาที แต่ถ้าเป็นการเล่นกีฬารูปแบบอื่นที่หนักมากๆ ควรอยู่ที่ 3 วัน ต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นฟูจากความบาดเจ็บ
- ควรมีวันพักร่างกายด้วย โดยเฉพาะช่วงที่เรารู้สึกว่าร่างกายล้ามากๆ ไม่ควรฝืนออกกำลังกาย หรือในช่วงที่งานเยอะ มีความเครียดสูง ก็ควรลดระยะเวลาและความเข้มข้นของการออกกำลังกายลง
ทางลัดกระตุ้นการฟื้นฟู เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ด้วยโพรไบโอติก (Probiotic)
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่าการออกกำลังกายอย่างหนักทำให้ร่างกายเกิดความเครียดขึ้น เพราะการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นหรือการเกิดอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดการอักเสบขึ้นในร่างกาย เป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกล้า หมดแรง เหมือนจะป่วยหลังออกกำลังกายมาอย่างหนัก
จากผลการวิจัยโพรไบโอติก (Probiotic) สายพันธุ์ SYNBIO ที่มีในอาหารเสริม Tactiva พบว่าโพรไบโอติกสายพันธุ์นี้ สามารถออกฤทธิ์ต้านการเกิดอนุมูลอิสระที่รุนแรงได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักเป็นประจำ หรือนักกีฬามืออาชีพ เพราะช่วยบรรเทาความรู้สึกล้าหรือไม่สบายตัวลงได้จริง หลังทานโพรไบโอติกสายพันธุ์นี้
นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณหลักที่โดดเด่นในเรื่องของการดูแลทางเดินอาหารและช่วยลดการเป็นหวัดได้จริง ซึ่งก็มีงานวิจัยสนับสนุนเรื่องนี้เช่นกัน จากการศึกษาพบว่ากลุ่มอาสาสมัครที่ร่วมทดลอง SYNBIO มีจำนวนเซลล์แลคโตบาซิลลัสหรือจุลินทรีย์ชนิดดีที่เราคุ้นเคย อยู่ในอุจจาระเพิ่มขึ้นหลังได้รับโพรไบโอติกสายพันธุ์นี้ โดยความเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพที่สังเกตเห็นได้ ได้แก่
- ส่งเสริมการทำงานภายในลำไส้ให้เป็นปกติ
- ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
- ขับถ่ายง่ายและความสม่ำเสมอ
- ลดอาการท้องเสียหรือท้องผูกง่าย
- ลดอาการท้องอืด มีแก๊สในทางเดินอาหาร
โดยสรุปคือไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม การยึดทางสายกลาง ไม่ฝืนธรรมชาติเกินไปย่อมดีกว่าการทำแบบสุดโต่ง ถ้าอยากได้ประโยชน์จากการออกกำลังกาย ก็ต้องทำแบบพอดีกับที่ร่างกายรับไหว โดยมุ่งเน้นให้การออกกำลังกายเป็นการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภายในร่างกาย ควบคู่กับการดูแลเรื่องการพักผ่อนอย่างเพียงพอและการทานอาหารที่มีประโยชน์ รับรองว่าให้ผลดีกับสุขภาพในระยะยาวได้แน่นอนครับ