คนส่วนใหญ่อาจยังคุ้นเคยกับประโยชน์เพียงไม่กี่ข้อของโพรไบโอติก (Probiotic) ในแง่ที่ช่วยดูแลสุขภาพลำไส้ แก้เรื่องการขับถ่ายยาก ส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหารโดยรวม ทั้งที่จริงแล้วโพรไบโอติกมีประโยชน์มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ดูแลสุขภาพผิวพรรณ ระบบประสาท หรือแม้แต่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกของเราให้แข็งแรงขึ้นได้ด้วย
ซึ่งสิ่งที่ทำให้คนเริ่มรู้จักและสนใจโพรไบโอติกมากขึ้น เกิดจากการที่พวกเขาต้องการดูแลสุขภาพลำไส้มากขึ้น เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารบ่อยๆหรือรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ท้องอืด มีแก๊ส ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง และปัญหาที่เริ่มจากจุดนี้ก็สามารถลุกลามไปถึงระบบการทำงานอื่นๆ หรือการเจ็บป่วยอื่นๆได้ด้วย
สาเหตุของการทำงานที่ผิดปกติในลำไส้ปัจจัยหลักมาจากรูปแแบบการใช้ชีวิตที่มีความเครียดสูง พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย และโดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ย่อยยาก กากใยน้อย ซึ่งการทานอาหารที่มีโพรไบโอติกไม่ได้เข้าไปแก้ปัญหาที่ระบบทางเดินอาหารให้หายขาดได้ทันที แต่จะเข้าไปช่วยเสริมการเติบโตของแบคทีเรียดีซึ่งเป็นแบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้ให้มีมากกว่าแบคทีเรียร้าย เมื่อสุขภาพลำไส้แข็งแรงขึ้น อาการเจ็บป่วยต่างๆก็จะค่อยๆดีขึ้นด้วย ดังนั้นถ้าอยากเห็นผลเร็วก็ต้องลดพฤติกรรมทำลายสุขภาพควบคู่ไปด้วย
การมีสมดุลแบคทีเรียดีในลำไส้ไม่เพียงทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท และมีส่วนช่วยในกระบวนการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ตามที่เราได้กล่าวถึงแล้วในช่วงต้น
สารบัญ
Toggleกระดูกพรุน ไม่แข็งแรงเกิดจากอะไรได้บ้าง
ในกระดูกและฟันของเราจะประกอบด้วยแร่ธาตุสำคัญคือแคลเซียมมากถึง 99% ที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่น ทำให้กระดูกแข็งแรง นอกจากนี้แคลเซียมยังมีหน้าที่สำคัญในการช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท ปรับสมดุลความดัน ลดการเกิดตะคริว
กระดูกจะมีการพัฒนาทั้งด้านขนาดและความแข็งแรงมากที่สุดในช่วงวัยรุ่นไปจนถึงช่วงอายุ 20 และจะเริ่มสูญเสียเนื้อเยื่อกระดูกเมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 40 เพราะกระบวนการสร้างกระดูกจะเริ่มทำงานได้ช้ากว่ากระบวนการสลาย นั่นก็แปลว่ายิ่งอายุมากกระดูกก็จะค่อยๆ ถูกทำลายลงเรื่อยๆถ้าเราทานแคลเซียมได้ไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะเริ่มไปดึงแคลเซียมที่สะสมในกระดูกออกมาใช้เรื่อยๆ ยิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งถูกดึงออกมามาก ทำให้มีปัญหากระดูกพรุน ความแข็งแรงลดลงจนเสี่ยงเกิดการเปราะหักได้ง่าย และถ้าคุณอยู่ในช่วงวัย 40 ที่กระดูกถูกทำลายได้ง่ายอยู่แล้ว ก็ยิ่งเสี่ยงเกิดเป็นภาวะทุพพลภาพในอนาคตได้
โพรไบโอติกส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้อย่างไร
แคลเซียมจะเกาะติดและถูกลำเลียงผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสโลหิต ดังนั้นถ้าลำไส้ของเราสะอาด ไม่มีแบคทีเรียก่อโรคเกาะติดที่ผนังลำไส้ ก็ไม่มีอะไรมาขัดขวางการทำหน้าที่ดูดซึมแคลเซียมของลำไส้ได้ ซึ่งโพรไบโอติกก็จะทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อโรคในทางเดินอาหาร และยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียร้ายไม่ให้มาจับที่เยื่อบุลำไส้จนไปขัดขวางการดูดซึมสารอาหารสำคัญ รวมถึงแคลเซียม โพรไบโอติกจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแร่ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียมดีขึ้น
รวมถึงโพรไบโอติกจะช่วยลดการอักเสปเรื้อรังที่อาจเกิดขึ้นถ้าลำไส้เสียสมดุลมากๆ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมและใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุดในการซ่อมบำรุงร่างกาย
อาหารชนิดใดให้โพรไบโอติกและพรีไบโอติกได้บ้าง
สำหรับใครที่ได้ทราบถึงประโยชน์ของโพรไบโอติก แล้วอยากเริ่มทานอาหารที่มีโพรไบโอติกสูงเป็นประจำอย่างจริงจังเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีระยะยาว สิ่งที่ต้องรู้เป็นอันดับแรกคือโพรไบโอติกจะมีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่สายพันธุ์ที่มีประโยชน์มากที่สุดมักจะอยู่ในอาหารหมักที่ยังไม่ผ่านกระบวนการปรุงหรือแปรรูปใดๆ เช่น กะหล่ำปลีดอง กิมจิ หรือผักดองแช่เย็น รวมถึงผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านการหมัก เช่น โยเกิร์ต
แต่ถึงเราจะรู้แล้วว่าจะเพิ่มโพรไบโอติกจากการทานอาหารชนิดไหนได้ เราก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่ามีโพรไบโอติกอยู่ในนั้นมากน้อยเพียงใด เพราะหนึ่งในปัจจัยที่ทำลายคุณภาพของโพรไบโอติก คือตัวภาชนะที่นำมาบรรจุไม่ว่าจะเป็นขวดโหลที่ใช้ดอง หรือการบรรจุลงกระป๋องที่ต้องผ่านการพาสเจอร์ไรส์เพื่อกำจัดแบคทีเรียร้าย แน่นอนว่าหลังผ่านกระบวนการนี้แล้วจะไม่ได้มีแค่แบคทีเรียร้ายที่ตายไป แต่โพรไบโอติกก็มีโอกาสสลายตามไปด้วยได้เช่นกัน
อีกทั้งโพรไบโอติกยังมีโอกาสถูกทำลายระหว่างถูกลำเลียงไปที่ลำไส้ได้สูง เพราะสภาพที่เป็นกรดในทางเดินอาหาร ดังนั้นจึงอาจต้องทานเผื่อในปริมาณมากๆ ยิ่งถ้าใครที่เลือกทานโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มโพรไบโอติก ก็อาจได้ของแถมเป็นน้ำตาลจากโยเกิร์ตในปริมาณที่สูงมากด้วย
ในปัจจุบันโชคดีที่เทคโนโลยีสามารถสร้างโพรไบโอติกในลักษณะอาหารเสริมได้ ทำให้เราสามารถเข้าถึงประโยชน์ของโพรไบโอติกได้เต็มที่และสะดวกมากขึ้น
วิธีเลือกอาหารเสริมโพรไบโอติก เพื่อดูแลสุขภาพลำไส้ เพิ่มความแข็งแรงให้กระดูก
- เลือกสายพันธุ์ที่มีจุดเด่นในการช่วยดูแลระบบย่อยและระบบขับถ่าย ต้องผ่านการวิจัยและมีการทดลองกับผู้ใช้จริงว่าให้ผลที่น่าพอใจได้
- ควรเลือกอาหารเสริมโพรไบโอติกในรูปแบบแคปซูลทนกรด เพื่อให้โพรไบโอติกไม่ถูกน้ำย่อยในทางเดินอาหารทำลาย ซึ่งแคปซูลจะช่วยพาโพรไบโอติกลงไปได้ลึกถึงลำไส้และพร้อมทำงานทันที
- ต้องมีปริมาณโพรไบโอติกเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 1,000 ล้าน CFU ใน 1 แคปซูล
ถ้าท่านสนใจ อาหารเสริมโพรไบโอติกที่ผ่านการคิดค้นมาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี มีปริมาณความเข้มข้นสูง มีการวิจัยรองรับ รวมถึงใช้นวัตกรรมแคปซูลทนกรด ทำให้ท่านได้ประโยชน์จากโพรไบโอติกอย่างสูงสุดจริงๆ และได้รับผลลัพธ์รวดเร็ว ตามที่สมควรจะได้ สามารถทักเราทาง Line เพื่อขอคำปรึกษาได้เลยนะครับ